7 กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย ช่วงคริสมาสต์

นอกจากวัน Double Day เช่น 11.11 หรือ 12.12 ต้องบอกว่า วันสำคัญหรือเทศกาล (Festival) ต่างๆ ก็นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นช่วงที่ผู้คนมักจะจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าที่ตนชื่นชอบหรือมีลูกเล่นที่สอดคล้องกับวันสำคัญต่างๆ

วันนี้เราเลยอยากมาแชร์กลยุทธ์การเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ ในช่วงเทศกาลที่หลายคนรอคอยอย่างวันคริสมาสต์และเทศกาลปีใหม่กัน ส่วนจะมีเทคนิคหรือกลเม็ดดีๆ อย่างไรบ้าง ตามไปค้นหาคำตอบกันเลย

 

1. ทำโปรไฟล์โซเชี่ยลมีเดียในน่าสนใจ

หนึ่งในวิธีการที่ง่ายที่สุด แต่กลับให้ผลลัพธ์ค่อนข้างมากในทุกเทศกาล คือ การเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ หน้า Landing Page หรือรูปหน้าปกในช่องทางโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ของธุรกิจ ให้สอดคล้องไปกับวันคริสมาสต์หรือปีใหม่ เช่น
 

1.1 ใช้พื้นหลังสีแดง/สีเขียวในรูปโปรไฟล์

1.2 เพิ่มองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวกับวันคริสมาสต์บริเวณโดยรอบโลโกของแบรนด์ เช่น กล่องของขวัญ กวางเรนเดียร์ หรือซานต้า

1.3 เขียนแคปชั่นหรือหัวข้อ (Headline) ที่ตรงกับเทศกาลวันคริสมาสต์

วิธีการเหล่านี้ ซึ่งไม่เพียงช่วยกระตุ้นความสนใจของลูกค้า แต่ยังสะท้อนว่าธุรดิจของคุณ ทันต่อทุกสถานการณ์หรือวันสำคัญที่กำลังจะมาถึง


 

2. กระตุ้นให้ซื้อสินค้าในช่วงเวลาพิเศษหรือภายในเวลาที่กำหนด (Countdown)

ตามที่เกริ่นไปว่าผู้คนมักจะจับจ่ายซื้อของในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่นเดียวกับคริสมาสต์หรือช่วงปีใหม่ หากธุรกิจต้องการกระตุ้นยอดขายของสินค้าขิ้นไหน ก็อาจเพิ่มช่วงเวลาพิเศษ ที่หากซื้อในช่วงเวลาหรือวันที่กำหนด ก็จะได้รับส่วนลดพิเศษ เป็นต้น


 

3. ออกคอลเลคชั่นสินค้าใหม่ในธีมคริสมาสต์

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ธุรกิจนิยมใช้กันก็คือ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าใหม่ๆ ในธีมเทศกาลคริสมาสต์ เพื่อเพิ่มยอดขายให้พุ่งแรงยิ่งขึ้น ทั้งยังกระตุ้นให้ผู้คนตั้งตารอ Product ใหม่ๆ ที่จะมาให้เลือกซื้ออีกในอนาคต


 

4. ทำหน้าเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์การใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน

ปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่มักจะสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต ดังนั้นธุรกิจจึงควรปรับแต่งไอเดียเกี่ยวกับคริสมาสต์หรือปีใหม่ให้เหมาะกับการใช้งานในทุกอุปกรณ์ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนนั่นเอง


 

5. กระตุ้นการขายด้วยการ…จัดส่งฟรี

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ค่าจัดส่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้คนอาจซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าของธุรกิจได้ แต่หากธุรกิจสามารถจัดส่งสินค้าถึงหน้าบ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ซึ่งธุรกิจสามารถนำเสนอเรื่องการจัดส่งฟรีได้ โดยกำหนดเงื่อนไขต่างๆ เช่น ต้องสั่งซื้อสินค้าในช่วงวันสำคัญที่กำหนด หรือต้องซื้อสินค้าให้ได้จำนวนชิ้นที่วางไว้ เป็นต้น


 

6. นำเสนอดีลหรือข้อเสนอพิเศษที่ลูกค้าต้องร้องว้าว

ยกตัวอย่างเช่น ข้อเสนอซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง (Buy One Get One Free :BOGO) ข้อเสนอส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่สมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์ในช่วงเทศกาล หรืออาจเพิ่มลูกเล่นให้น่าสนใจ เช่น การจัดกิจกรรมร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลในธีมคริสมาสต์หรือคูปองส่วนลด สำหรับใช้ในโอกาสต่างๆ ซึ่งการนำเสนอดีลพิเศษ ไม่เพียงช่วยกระตุ้นยอดขายได้อีกทางหนึ่ง แต่ยังช่วยส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง หากดีลนั้นมีความโดดเด่นมากพอ


 

7. สร้างสรรค์อีเมลการตลาดที่เจาะจงลูกค้าเป็นรายคน

การนำเสนอสินค้าหรือบริการที่แสดงถึงความเข้าใจลูกค้าแต่ละคน ย่อมเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ในที่สุด ทั้งยังสร้างลูกค้าที่เชื่อมั่นในแบรนด์ได้ (Customer Loyalty) โดยเฉพาะการทำอีเมลการตลาด (Email Marketing) ที่ควรสร้างความรู้สึกให้ลูกค้าเหมือนเป็น “คนพิเศษ” เช่น การคูปองส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าช่วงปีใหม่ การใส่ชื่อ-นามสกุลผู้รับในหัวเรื่องอีเมล เป็นต้น



ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก
Cr: NIPA