4 ข้อควรระวังในการจัดโปรโมชันสินค้าออนไลน์

สิ่งที่ควรระวังในการจัดโปรโมชันดึงดูดลูกค้า

สำหรับธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าและบริการ โดยเฉพาะธุรกิจที่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ การจัดโปรโมชันดึงดูดลูกค้าคือกลุยุทธ์สำคัญรูปแบบหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ เนื่องจากในปัจจุบันการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการในโลกออนไลน์เข้มข้นและดุเดือดเป็นอย่างมาก ทั้งธุรกิจดั้งเดิมที่ปรับตัวเข้ากับเทรนด์ที่เปลี่ยนไป และธุรกิจเกิดใหม่ ต่างก็หวังที่จะสร้างกำไรในแพลตฟอร์มนี้ 

เพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้าให้ได้มากที่สุด การจัดโปรโมชันสินค้ายิ่งต้องร้อนแรง เห็นคู่แข่งลด 30% รู้สึกยอมไม่ได้ อยากที่จะเอาชนะ จัดไปลด 50% หรือไม่ก็ 1 แถม 1 เพื่อให้ลูกค้าเปลี่ยนใจมาซื้อที่ร้านเรา จนบางครั้งลืมคิดไปว่า การที่มีลูกค้ามาซื้อสินค้าอย่างถล่มทลายจนอินบ๊อกซ์แทบระเบิดอาจนำไปสู่การขาดทุนที่คาดไม่ถึง!

ทั้ง ๆ ที่โปรโมชันได้ผลตอบรับถล่มทลาย ลูกค้าแวะเวียนไม่ขาดสาย ยอดผู้ติดตาม, ยอด Reach, ยอด Engagement พุ่งกระฉูด แต่ทำไมนับวันกำไรยิ่งหดหาย ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย…บทความนี้จะมาช่วยไขให้กระจ่างเอง โดยสาเหตุอาจมาจากผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจอาจลืมนึกถึงข้อควรระวังในการวางแผนโปรโมชัน ส่วนข้อควรระวังมีอะไรบ้าง ติดตามได้เลย

1. จัดโปรโมชันโดยลืมคำนึงถึงต้นทุนแฝง
 

บางครั้งผู้ประกอบการ โดยเฉพาะหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่สนามธุรกิจ ยังขาดประสบการณ์ในการจัดโปรโมชันสินค้า ก็มักที่จะเร่งรีบประกาศโปรโมชันออกมาเพื่อประชันกับคู่แข่ง คิดเพียงว่าต้องทำยอดขายให้ได้มากกว่า แย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดมาให้ได้มากที่สุด โดยลืมคิดคำนวนอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเรื่อง ‘ต้นทุนแฝง’ ที่ถือว่าสำคัญอย่างมาก และดึงธุรกิจที่กำลังเป็นดาวรุ่งลงมาเป็นดาวร่วงหลายรายแล้ว

ดังนั้น ในการวางแผนโปรโมชัน นอกจากต้นทุนราคาสินค้าแล้ว อย่าลืมนำต้นทุนแฝงไปคำนวณด้วย เพื่อให้สามารถจัดโปรโมชันได้อย่างแม่นยำ ทำกำไรได้ตามเป้าหมาย 

ต้นทุนแฝงคืออะไร? อธิบายให้เข้าใจโดยง่าย คือต้นทุนอื่นนอกเหนือจากที่ใช้ในการผลิตสินค้า เช่นค่าเสียเวลา, ค่าจ้างพนักงานพิเศษในช่วงการจัดโปรโมชันสินค้า, ค่าจัดส่งสินค้า, ค่าน้ำค่าไฟของคลังเก็บสินค้าที่เพิ่มติมขึ้นในช่วงโปรโมชัน เป็นต้น เหล่านี้คือต้นทุนแฝงที่ควรนำมาคิดคำนวณในการจัดโปรโมชันด้วยเช่นกัน

2. ยอดขายโปรโมชันไม่ใช่ยอดขายที่แท้จริง
 

ขึ้นชื่อว่าโปรโมชัน ก็บ่งบอกชัดเจนในคำแล้วว่าเป็นการกระตุ้นยอดขาย ดึงดูด สร้างความจูงใจแก่ลูกค้าด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งซึ่งมีกำหนดไว้อย่างตายตัว ดังนั้นสิ่งที่ควรระวัง โดยเฉพาะผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนักคือ อย่าคิดว่ายอดขายในช่วงโปรโมชันคือยอดขายที่แท้จริง และจะยั่งยืนแบบนี้ไปตลอด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในช่วงที่มีการจัดโปรโมชันสินค้าคือลูกค้าที่ถูกจูงใจด้วยข้อเสนอ หรือส่วนลดต่าง ๆ โดยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญนักว่าเป็นของแบรนด์ใด ดังนั้นถึงแม้ยอดขายในช่วงโปรโมชันจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ควรที่จะประเมินอย่างรอบคอบว่ายอดขายที่แท้จริงหลังจากจบช่วงโปรโมชันอยู่ที่เท่าไร สามารถสร้างฐานลูกค้าใหม่ได้เพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้สามารถจัดการสต็อกได้อย่างแม่นยำ ไม่ซื้อสินค้ามาสต็อกไว้เกินความจำเป็น

3. ไม่ได้เตรียมความพร้อมรองรับโปรโมชันที่ดีพอ
 

การจัดโปรโมชันดึงดูดลูกค้าเปรียบเสมือนดาบสองคม ถ้าหากสามารถจัดการทุกอย่างได้ราบรื่นตลอดช่วงเวลาที่โปรโมชันดำเนิน ก็ถือเป็นข้อดี ที่ได้ทั้งกำไร ทั้งฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ แต่ถ้าหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น จากที่จะใช้โปรโมชันในการสร้างโอกาส ก็อาจพลิกกลับเป็นวิกฤติได้เช่นกัน 

ความผิดพลาดในการจัดโปรโมชันเป็นอะไรได้บ้าง? ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่สุด โดยเฉพาะกับเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการวางแผนโปรโมชันมาก่อนคือ สต็อกสินค้าไม่สอดคล้องกับยอดสั่งซื้อ ซึ่งไม่ว่าจะสต็อกน้อยหรือมากเกินไปก็ถือเป็นปัญหาที่เลวร้ายไม่แพ้กัน

ในกรณีที่สต็อกสินค้าน้อยเกินไป สินค้าหมดก่อนที่โปรโมชันจะจบ นอกจากจะพลาดโอกาสในการสร้างกำไรแล้ว ยังเป็นการสร้างประสบการณ์ไม่ดีให้ลูกค้ามีต่อแบรนด์ด้วย เนื่องจากการถูกตอบปฏิเสธว่าสินค้าหมด อาจส่งผลให้ลูกค้าคนดังกล่าวไม่กลับมาซื้อสินค้ากับแบรนด์อีก

ตรงกันข้าม ถ้าหากสต็อกสินค้ามากเกินไป แน่นอนว่าหากขายไม่หมด และสินค้าเป็นประเภทที่เสื่อมอายุการใช้งานไว ก็อาจทำให้ขาดทุนได้ ดังนั้นจึงควรที่จะมีการวางแผนโปรโมชันอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจจัดโปรโมชัน

4. โปรโมชันไม่ตอบโจทย์จุดประสงค์ที่ต้องการ
 

การจัดโปรโมชันไม่ควรทำด้วยอารมณ์ ‘ใจเร็วด่วนได้’ หรือเห็นว่าคู่แข่งทำ ก็อยากที่จะทำบ้าง แต่ควรที่จะมีการวางแผนโปรโมชันอย่างรอบคอบ กำหนดจุดประสงค์ว่าจัดโปรโมชันไปเพื่ออะไร?

สร้างฐานลูกค้าใหม่, กระตุ้นยอดขาย, เคลียร์สต็อก, สร้าง Awareness เหล่านี้คือตัวอย่างจุดประสงค์ในการจัดโปรโมชันสินค้า ซึ่งการจะบรรลุแต่ละจุดประสงค์ก็ย่อมต้องใช้โปรโมชันที่แตกต่างกันไป ดังนั้นจดไว้ได้เลยว่า จุดประสงค์มาก่อน โปรโมชันมาทีหลัง เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนจากโปรโมชันได้ไม่น้อย 

ขอบคุฯข้อมูลดีๆ จาก
Cr:  Line MyShop