ภาษีขายของออนไลน์ที่แม่ค้าออนไลน์ควรรู้



ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาใช้งาน ทำให้อาชีพของใครหลายคนมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น บางอาชีพอาจถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี หรือบางอาชีพอาจกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น และหนึ่งในอาชีพที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็คือการขายของออนไลน์ หากร้านค้าขายดีมีเงินหมุนเวียนในระบบเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้ทางภาครัฐต้องเข้ามาควบคุมดูแล ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าภาษีขายของออนไลน์เกิดขึ้น

 

 

รู้จักกับภาษีออนไลน์

 

การจ่ายภาษีคือหน้าที่ของประชาชนทุกคนทุกประเทศ ทว่าในปัจจุบันหลายคนยังเข้าใจว่าหากทำการขายของผ่านช่องทางออนไลน์นั้นไม่จำเป็นต้องเสียภาษี ซึ่งคงต้องอธิบายให้ชัดเจนว่าอย่างไรก็ต้องเสียภาษีในรูปแบบของภาษีเงินได้

ภาษีของการขายของออนไลน์นับเป็นภาษีเงินได้จากการค้าขาย ซึ่งจะมีการแบ่งการคำนวณเป็นสองประเภท คือ

 

      - ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา : กรณีเป็นพ่อค้าแม่ค้าธรรมดา

      - ภาษีเงินได้นิติบุคคล : กรณีที่ร้านค้านั้น ๆ มีการจดทะเบียนเป็นบริษัท

 



การคำนวณอัตราภาษีนั้นไม่ได้แตกต่างกับการจ่ายภาษีตามปกติ คือคิดตามอัตราขั้นบันไดตามกฏหมายกำหนด และมีค่าใช้จ่ายที่สามารถนำมาหักภาษีได้ดังนี้
 

   - หักค่าใช้จ่ายตามอัตรา 60% ของเงินได้ สำหรับร้านที่ดำเนินการแบบซื้อมา ขายไป ไม่มีการผลิตภายในร้าน
 

   - หักตามค่าใช้จ่ายจริง สำหรับบ้านที่มีการผลิตภายในร้าน
 

   - หักแบบเหมา กรณีที่มีรายได้จากช่องทางออนไลน์เกิน 1,000,000 บาท โดยคิดภาษีเป็น 0.5% ของเงินได้
 

ซึ่งคนทั่วไปก็สามารถคิดภาษีได้ด้วยตัวเอง หรือใช้โปรแกรมในการคำนวณด้วยสูตร (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) และแน่นอนว่าหากรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ก็มีโอกาสที่จะไม่ต้องเสียภาษีเช่นกัน

 

 

 

ข้อควรรู้ของภาษีออนไลน์

 

ทางกรมสรรพากรจะรู้ได้อย่างไรว่ามีการขายของออนไลน์เกิดขึ้น ในปัจจุบันมีกฎหมายออกมารองรับทำให้ทางสถาบันการเงินต้องมีการส่งข้อมูลการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกกันว่า (e-Payment) ให้กับทางกรมสรรพากรตรวจสอบ แต่ไม่ได้ตรวจสอบทุกบัญชี ลองมาดูเงื่อนไขกันว่ากรมสรรพากรจะตรวจสอบอย่างไร

 

"เมื่อมีการฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชี 3,000 ครั้งต่อปีขึ้นไป ไม่ว่าจะมียอดรวมทั้งหมดกี่บาทก็ตาม"

“ฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน 400 ครั้งขึ้นไป และมียอดเงินรวมกันเกิน 2 ล้านบาท”

 

ข้อมูลจาก : พระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๘)

 

ในส่วนนี้ขอขยายความว่า กรณีซื้อของออนไลน์หรือการโอนออกเพื่อใช้จ่ายจะไม่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทางกรมสรรพากรต้องการคือ การรับโอน ดังนั้นสำหรับคนที่จำเป็นต้องโอนเงินเพื่อใช้จ่ายจึงไม่ต้องกังวลกับการเสียภาษีตรงนี้

 

ข้อมูลที่กรมสรรพากรจะได้

 

   - เลขประจำตัวประชาชน

   - ชื่อ สกุล

   - เลขบัญชีเงินฝาก

   - จำนวนครั้งของการฝากหรือโอน

   - ยอดรวมจากการฝากหรือโอน

 

ซึ่งกรมสรรพากรจะไม่เพียงตรวจสอบผู้ที่เป็นร้านค้าเท่านั้น แต่รวมไปถึงผู้ที่มีการโอนเงินมากผิดปกติจนน่าสงสัยอีกด้วย

แต่ไม่ต้องกังวลไป แม้ว่าคุณเพิ่งทำธุรกิจขายของออนไลน์หรือทำมานานแล้วก็สามารถเตรียมตัวได้ไม่ยาก

 

 

 

พ่อค้าแม่ค้าต้องทำอย่างไรบ้าง

 

สำหรับการเตรียมตัวไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด โดยปกติแล้วการค้าขายออนไลน์จะต้องมีการบันทึกข้อมูลลูกค้า การใช้จ่าย ลงทุน รวมถึงการรับเงินอยู่แล้ว สิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าทุกคนต้องทำเพิ่มขึ้นมาก็คือ

บันทึกทุกอย่าง ทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อสามารถตรวจสอบได้ว่าเรามีรายรับรายจ่ายประเภทใด อย่างไรบ้าง

ไม่ทิ้งหลักฐานที่เกี่ยวกับการค้าให้หายไป เมื่อทางกรมสรรพากรมีคำถามเกี่ยวกับรายรับรายจ่าย นอกจากจะได้เห็นบันทึกรายรับรายจ่าย ยังมีหลักฐานทางธุรกรรมเพื่อยืนยันว่าเราได้ดำเนินการโอนรับ จ่าย หรือลงทุนตามจริงด้วย

ติดตามข่าวการเงิน โดยเฉพาะด้านภาษีที่มีการอัปเดตในแต่ละปีตามการไหลเวียนของเงินในประเทศและต่างประเทศ แต่หากไม่มีความรู้ด้านการเงินอาจทำให้พลาดเสียเงินมากเกินความจำเป็นหรือจ่ายภาษีซ้ำซ้อนได้

หาความรู้เกี่ยวกับภาษีเงินได้ รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อที่จะสามารถจัดการรายรับรายจ่ายในแต่ละปี รู้ว่าต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ลดหย่อนภาษีได้ด้วยวิธีใดบ้าง

 

 

 

สะดวกกว่าด้วยการยื่นภาษีออนไลน์

 

นอกจากการตรวจสอบสิ่งต่าง ๆ ในโลกออนไลน์แล้ว ทางกรมสรรพากรเองก็ยังดำเนินการอำนวยความสะดวกให้เหล่าผู้เสียภาษีเงินได้ โดยสามารถเข้าไปยื่นแบบภาษีตามกำหนดการรายปีได้ที่ ยื่นแบบ-ชำระภาษีออนไลน์ ซึ่งภายในจะมีรายละเอียดต่าง ๆ ระบุไว้อย่างครบถ้วน พร้อมให้ประชาชนยื่นแบบภาษีเงินได้ในเวลาไม่กี่นาที ผ่านทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

 

ซึ่งปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนก็ยังพยายามขายสินค้า รวมถึงขยายกิจการของตัวเองอย่างต่อเนื่อง อาจจะมีคนที่รายได้มากพอที่จะเสียภาษีบ้าง ยังไม่ถึงบ้าง แต่อย่างไรทุกสิ่งก็ต้องก้าวไปข้างหน้า


ขอบคุณข้อมูลดีจาก 
Cr: เงินติดล้อ
 


แนะนำ 4 ปัจจัยที่จะกำหนดว่าคุณจะขายสินค้าได้หรือไม่!

ณ ปัจจุบันการขายของออนไลน์นั้น ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ลองสังเกตจากการเกิดร้านค้าออนไลน์ใหม่ ๆ ขึ้นมากมาย อย่างไรก็ดี เชื่อว่าทุกท่านอาจมีความกังวล กลัวว่าลงทุนไปแล้วจะไม่สำเร็จลุล่วงอย่างที่หวังไว้ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกๆท่านจำไว้ก่อนจะเลือกของมาขายก็คือ “ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในการตลาดบนโลกออนไลน์และต้องใช้เครื่องมือต่าง ๆ ให้เป็น”
16/ม.ค./2023 16:46 น.

6 เทคนิคการปิดการขาย สำหรับคนขายของออนไลน์เพื่อเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น

การปิดการขายสำคัญมากสำหรับคนขายของออนไลน์ นอกจากจะขายสินค้าได้มากขึ้นแล้ว อาจจะมัดใจลูกค้าให้ซื้อซ้ำได้อีกด้วย โดยระบบหลังบ้าน Order Plus
31/ม.ค./2023 09:52 น.

10 เทรนด์ การยิงแอด Facebook ในปี 2023 โดย ระบบหลังบ้าน Order Plus

การคาดการณ์การยิงแอด Facebook ในปี 2023 เพื่อเป็นแนวทางในการวิเคราะห์แนวโน้มในการขายสินค้าและทำการตลาดผ่านทาง Facebook ต่อไป
07/ก.พ./2023 10:20 น.
ระบบจัดการออเดอร์ OrderPlus ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ เพื่อเสริมสร้างการขาย
ค่าขนส่งที่ถูกลง และเพิ่มผลกำไรที่มากขึ้น
  • 181/261 moo 3, Changpuek,
    Mueng, Chiang Mai, Thailand 50300
  • [email protected]
  • 02-114-7287
line-icon