
ยุคนี้ “ความเร็วในการจัดส่ง” กลายเป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า
แต่ก็มีอีกหนึ่งปัญหาที่แม่ค้าออนไลน์รวมถึงผู้ซื้อสินค้าออนไลน์เจอกันบ่อยมาก นั่นคือ
การที่ “พัสดุตกหล่น” ทำให้ของไปถึงปลายทางช้าหรือหยุดอยู่นานโดยไม่รู้สาเหตุ
บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจว่า พัสดุตกหล่นคืออะไร เกิดจากอะไร เช็กยังไง และควรรับมือยังไงเพื่อป้องกันการตกหล่นและติดตามสถานะพัสดุได้แบบเรียลไทม์
พัสดุตกหล่น (Parcel Delay / Parcel Pending) คือ พัสดุที่ถูกค้างอยู่ตามศูนย์คัดแยกหรือจุดกระจายสินค้าของบริษัทขนส่ง และไม่ถูกส่งต่อไปยังปลายทางตามเวลาปกติซึ่งพัสดุอาจค้างเพียง 1–2 วัน หรือค้างนานหลายวัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและการจัดการของระบบขนส่ง
1) ปริมาณพัสดุจำนวนมากในบางช่วง
ช่วงแคมเปญใหญ่ เช่น 11.11, 12.12, ปีใหม่ หรือต้น/ปลายเดือน ทำให้ศูนย์คัดแยกมีพัสดุเข้าพร้อมกันจำนวนมาก ส่งผลให้พัสดุค้างอยู่ในระบบได้
2) พื้นที่ปลายทางเป็น “พื้นที่ห่างไกล”
ปลายทางบางแห่งต้องรอรวมรอบส่งก่อน เช่น พื้นที่เกาะ, ภูเขา, ตำบลห่างไกล ทำให้พัสดุถูกพักในคลังนานกว่าปกติ
3) ระบบคัดแยกหรือขนส่งมีปัญหา
เครื่องสแกนบาร์โค้ดขัดข้อง, ระบบล่ม, ขาดพนักงาน หรือปัญหาไลน์การคัดแยกพัสดุของขนส่ง
4) พัสดุมีความเสี่ยง เช่น แตกง่าย หรือบรรจุภัณฑ์เสียหาย
ขนส่งอาจคัดแยกไปตรวจซ้ำก่อนส่ง เพราะเกรงว่าจะเกิดความเสียหายเพิ่มเติม
5) ข้อมูลบนกล่องไม่ครบ / ที่อยู่ไม่ชัดเจน
ทำให้ระบบไม่สามารถคัดแยกปลายทางอัตโนมัติได้ ต้องพักรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

โดยปกติจะเช็กได้จาก เลขพัสดุ (Tracking) ถ้าพบว่า:
ถ้าเจอครบทั้ง 3 ข้อ หรือ 1 ใน 3 มีความเป็นไปได้ว่าพัสดุของเราอาจจะตกหล่นอยู่ในระบบ
1) ตรวจสอบสถานะพัสดุจากเลข Tracking ก่อน
นำเลขพัสดุไปตรวจสอบผ่านเว็บไซต์หรือแอปของบริษัทขนส่งเพื่อดูว่าสถานะล่าสุดคืออะไร
2) ติดต่อร้านค้าเพื่อขอความช่วยเหลือ
ลูกค้าควรแจ้งร้านค้าทันที เพราะร้านค้าจะช่วยติดต่อกับบริษัทขนส่งได้รวดเร็วกว่า พร้อมแนบ เลขออเดอร์, เลขพัสดุ, วันที่สั่งซื้อ ให้เรียบร้อย
3) ติดตามการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง
ควรติดตามสถานะเป็นระยะ ไม่จำเป็นต้องทวงถี่ แต่ควรเช็กทุก 1–2 วัน
4) เก็บหลักฐานการสั่งซื้อไว้เสมอ
หลักฐานสำคัญ เช่น สลิปโอนเงิน ข้อความยืนยันคำสั่งซื้อ แชทสนทนากับร้านค้าจะช่วยยืนยันสิทธิ์ของลูกค้าในกรณีที่ต้องเคลม หรือขอคืนเงินตามเงื่อนไขแพลตฟอร์ม
5) ตรวจสอบเงื่อนไขการคืนเงินของแพลตฟอร์ม
หากพัสดุตกหล่นเป็นเวลานานผิดปกติ และร้านค้าไม่สามารถแก้ไขได้ทันเวลา ลูกค้าสามารถตรวจสอบนโยบายของแพลตฟอร์มที่สั่งซื้อ เช่น Shopee หรือ Lazada ซึ่งมักมีระบบคุ้มครองผู้ซื้อในกรณีที่สินค้าไม่ถึงมือ
1) เช็กสถานะให้ถี่ขึ้น
เข้าเว็บหรือแอปของขนส่งเช็กสถานะทุก 12–24 ชั่วโมง
2) ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของขนส่ง
สามารถเปิด Ticket ให้เจ้าหน้าที่ตามของให้ได้ทุกบริษัท
3) อัปเดตลูกค้าแบบโปร่งใส
ลูกค้าจะเข้าใจมากขึ้นถ้าร้านแจ้งเหตุผลและระยะเวลาประมาณการที่อาจล่าช้า “พัสดุค้างที่ศูนย์คัดแยกของขนส่งค่ะ แต่ยังไม่หายนะคะ ตอนนี้กำลังตามให้ค่ะ”
4) เตรียมหลักฐานกำกับออเดอร์
ภาพสินค้า, ชื่อที่อยู่, ข้อมูลจัดส่ง จะช่วยให้แก้ปัญหาได้เร็วขึ้น
5) ใช้ระบบหลังบ้านที่ช่วยติดตามและมีแจ้งเตือนสถานะพัสดุ
แม่ค้าหลายร้านพลาดเช็กพัสดุเพราะออเดอร์เยอะเกิน การมีตัวช่วยเป็นระบบหลังบ้านที่ช่วยแจ้งเตือนสถานะ ผิดปกติของพัสดุ จะลดโอกาสที่พัสดุตกหล่นแบบไม่รู้ตัว
ซึ่งระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ (OMS) อย่าง Order Plus (ออเดอร์พลัส) จะช่วยส่งแจ้งเตือนสถานะพัสดุให้คุณ และมีแอดมินคอยดูแล 24 ชั่วโมงพร้อมช่วยประสานงานเรื่องพัสดุของคุณกับทางบริษัทขนส่ง ดังนั้นแม้ออเดอร์จะเยอะ กลัวว่าพัสดุตกหล่นจะไม่มีคนช่วยตาม ก็หายกังวลได้ทันทีเพราะมีระบบหลังบ้านดี ๆ อย่าง Order Plus คอยดูแล
พัสดุตกหล่นไม่ได้หมายความว่าของเราหาย แต่คือของที่ถูกค้างอยู่ในระบบขนส่ง
ร้านค้าสามารถลดปัญหาและรับมืออย่างเป็นระบบได้ ทั้งการเช็กสถานะอย่างสม่ำเสมอ ติดต่อขนส่ง และใช้เครื่องมือจัดการออเดอร์อย่าง
Order Plus ที่ช่วยแจ้งเตือนเมื่อเจอพัสดุตกหล่น
ส่วนทางด้านลูกค้าเองก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกินไป สิ่งที่ควรทำคือ
ตรวจสอบสถานะ → แจ้งร้านค้า → คอยติดตาม → เก็บหลักฐานไว้เสมอ
และเมื่อร้านค้าใช้เครื่องมือจัดการออเดอร์ที่ดี ลูกค้าก็จะได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นไปพร้อมกัน
อ้างอิง


