ในปัจจุบันอาชีพการขายของออนไลน์เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก บางคนทำเป็นอาชีพเสริม บางคนทำเป็นอาชีพหลักเลยทีเดียว การขายของออนไลน์ในยุคดิจิทัล ถือได้ว่าเป็นอาชีพที่ทำง่ายไม่ยุ่งยาก แต่เพราะแบบนี้ เลยทำให้มีคู่แข่งมากขึ้นเรื่อย ๆ สินค้าที่ขายซ้ำกัน ดังนั้น เราจึงควรที่จะหาจุดเด่น หรือวิธีที่จะสามารถชูจุดเด่นของร้านค้าให้น่าสนใจมากกว่าเดิม เพื่อทำให้ลูกค้าสนใจ ส่วนนี้เลยเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการขายของออนไลน์ บทความนี้จึงรวมเทคนิคการขายของออนไลน์เอาไว้ให้คุณ

รวม 6 เทคนิคขายของออนไลน์ให้ปัง ไม่พังแน่นอน

1. วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและความต้องการของลูกค้า

ในปัจจุบันการเริ่มต้นขายของออนไลน์ จะต้องมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน การกำหนดกลุ่มเป้าหมายจะต้องรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น ช่วงอายุ พฤติกรรมการซื้อของ หรือกิจกรรมที่ชื่นชอบ เพื่อที่จะได้เจาะกลุ่มลูกค้าได้ถูก และรู้ความต้องการจริง ๆ ของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งช่วยให้สามารถเสนอสินค้าและบริการให้ตรงใจได้มากที่สุด ที่สำคัญผู้ขายจะต้องสำรวจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอยู่เสมอ หากความต้องการมีการเปลี่ยนแปลง จะได้ตอบสนองได้อย่างถูกต้อง

2. สร้างภาพลักษณ์ที่น่าจดจำ

ขั้นต่อไปเมื่อเลือกสินค้าได้แล้ว คือ ต้องทำให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำ เพื่อที่จะได้เป็นที่รู้จักได้เร็วขึ้น โดยจะต้องหาเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ก่อน เริ่มจากการดึงจุดเด่นของสินค้าผ่านโลโก้ สโลแกน หรือชื่อแบรนด์ รวมถึงการคุม Mood & Tone ของแบรนด์ให้ไปในทางเดียวกัน และใช้สีเพื่อสร้างภาพลักษณ์ เสริมภาพจำของแบรนด์ให้ชัดเข้าไปอีก ซึ่งสีแต่ละสีสามารถบ่งบอกอารมณ์ หรือสร้างความรู้สึกที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกสีให้เหมาะกับภาพลักษณ์แบรนด์ที่สร้างขึ้น จะช่วยสื่อสารกับผู้บริโภคได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 

3. ใส่ใจกับรูปภาพสินค้า

การจะดึงดูดลูกค้ารูปถ่ายก็เป็นสิ่งแรกที่คนเรามักจะเลือกมองก่อนเสมอ หากรูปสวยก็จะยิ่งดึงดูดลูกค้าให้เข้ามารับชมสินค้าได้ง่ายขึ้น ดังนั้น การถ่ายรูปสินค้าเป็นเทคนิคขายของออนไลน์ที่มีความสำคัญมาก เพราะการขายออนไลน์ ลูกค้าไม่สามารถจับสินค้าตัวจริงได้ จึงต้องถ่ายรูปสินค้าให้มีความน่าสนใจ และทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในตัวแบรนด์ของคุณ เช่น จัดองค์ประกอบภาพให้เหมาะสม เลือกใช้แสงให้เหมาะกับสินค้า การถ่ายภาพหลายมุมและการมีลูกเล่นต่าง ๆ

4. การตั้งราคาให้ดึงดูดผู้บริโภค

ราคาเป็นอีกหนึ่งเทคนิคขายของออนไลน์ที่พ่อค้าแม่ค้าต้องเจอ และหลาย ๆ ครั้งอาจมีปัญหาว่าควรจะต้องตั้งราคาขายที่เท่าไหร่ เพื่อให้ได้กำไร พร้อมดึงดูดผู้บริโภคด้วย ซึ่งศาสตร์การตั้งราคาด้วยหลักจิตวิทยา มีดังนี้

• การตั้งราคาลงท้ายด้วยเลข 9  

หลักการตั้งราคาลงท้ายด้วยเลข 9 ถือเป็นกลยุทธ์การตั้งราคาสินค้าตามหลักจิตวิทยาที่เห็นได้ทั่ว ๆ ไป เพราะเลข 9 ถือเป็นเลขสุดท้ายก่อนที่จะขึ้นตัวเลขหลักใหม่ ทำให้สินค้าดูเหมือนถูกลง เพราะส่วนใหญ่แล้วผู้บริโภคมักจะประเมินราคาจากเลขตัวหน้าเป็นหลัก สำหรับสินค้าที่เหมาะจะตั้งราคาด้วยเทคนิคนี้ควรเป็นสินค้าที่สามารถต่อรองได้ เพราะลูกค้าก็จะไม่ต่อราคาที่มากจนเกินไป ทำให้ยังได้กำไร

• การตั้งราคาให้คำนวณง่าย

สำหรับร้านที่ขายของหลากหลาย ภายในร้านมีทั้งเสื้อ กางเกง กระโปรง และรองเท้า การตั้งราคาที่คำนวณได้ง่าย ไม่ต้องลงท้ายด้วยเลขเศษ ช่วยให้ลูกค้าคำนวณการจ่ายได้ง่าย เมื่อซื้อของหลายชิ้นจะได้ไม่เกิดความยุ่งยาก

• การตั้งราคาเป็น 3 ระดับ

เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการตั้งราคาที่น่าสนใจ คือ ตั้งราคาแบบ 3 ระดับ กับสินค้าที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน เพื่อเป็นการกระตุ้นความคิดของลูกค้าให้นึกถึงความคุ้มค่า เช่น ขนาดเล็ก 15 บาท ขนาดกลาง 20 บาท และขนาดใหญ่ 25 บาท ลูกค้าก็จะรู้สึกว่าเพิ่มเงินอีกแค่นิดหน่อยแต่ได้ขนาดที่เพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าที่จะเสียเงินเพิ่ม จึงเลือกซื้อแบบชิ้นใหญ่ ซึ่งก็จะทำให้ขายได้ในปริมาณและราคาที่มากขึ้น 

• ตังราคาแบบขายเหมา

การตั้งราคาแบบเหมาเป็นการส่งเสริมการขายรูปแบบหนึ่ง  คือ หากลูกค้าซื้อในปริมาณที่มาก หรือซื้อแบบยกลังจะถูกกว่าการซื้อแยกชิ้น ถือเป็นการตั้งราคาที่ช่วยดึงดูดผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี

5. มีระบบหลังบ้านที่แข็งแรง

การมีระบบจัดการงานหลังบ้านที่ดี เป็นอีกหนึ่งเทคนิคขายของออนไลน์ที่จะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์หลาย ๆ ร้านประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ลูกค้าไม่ต้องรอนาน และลดความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นได้ด้วย  เช่น การใช้โปรแกรมช่วยจัดการออเดอร์ อย่าง Order Plus ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ ที่จะช่วยตอบลูกค้าได้รวดเร็วมากขึ้น ทำให้คุณไม่พลาดทุกโอกาสในการขาย และจัดการระบบหลังบ้านครบ จบ ในที่เดียว

6. การจัดโปรโมชัน

การจัดโปรโมชันถือเป็นการกระตุ้นยอดขาย และโน้มน้าวใจให้ลูกค้าซื้อสินค้า หรือบริการของเราเพิ่มขึ้น ซึ่งการสร้างโปรโมชันขึ้นมาในแต่ละครั้งจะต้องตั้งเป้าหมายว่าทำเพื่ออะไร  เช่น จะเปิดตัวสินค้าใหม่ กระตุ้นยอดขาย หรืออยากดึงลูกค้าใหม่ ๆ รวมถึงต้องเลือกจัดโปรโมชันให้เหมาะกับเป้าหมายต่อไป โดยการจัดโปรโมชันนั้นมีหลายรูปแบบ เช่น การซื้อ 1 แถม 1 ราคาในช่วงเวลาพิเศษ โปรโมชันพิเศษฟรีค่าส่ง หรือลดราคาสตามเทศกาลต่าง ๆ 

ในปัจจุบันการเรียนรู้เทคนิคการขายของบนช่องทางออนไลน์ ต้องใช้ความคิดเทคนิคต่าง ๆ เพื่อที่จะใช้ในการพัฒนาแบรนด์ หรือสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น ด้วยการใช้เทคนิคทั้ง 6 ข้อข้างต้น เราเชื่อว่าคุณจะสามารถปรับปรุงตัวตนบนโลกออนไลน์ เพิ่มยอดขาย และเพิ่มผลกำไรสูงสุดในตลาดดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน เทคนิคต่าง ๆ ที่ได้นำเสนอไปจะช่วยทำให้ธุรกิจสามารถปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของการขายออนไลน์ และประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ไม่มากก็น้อยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก

thestreetratchada

talkatalka