กลยุทธ์การตลาด 4P สร้างยอดขายให้ทะลุเป้า

[OrderPlus]-กลยุทธ์การตลาด 4P



หากคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาด 4P แต่ก็ยังไม่ได้ศึกษาแบบจริงจัง บอกเลยว่าช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว! ถ้าคุณอยากขายดีตลอดปีและทำกำไรให้ร้าน บอกเลยว่ากลยุทธ์นี้สำคัญมาก และเพื่อช่วยให้พ่อค้าแม่ค้ายุคใหม่เช่นคุณประสบความสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับกลยุทธ์การตลาด 4P แบบจัดเต็ม!



แผนการตลาด 4P คืออะไร

4P หรือ Marketing Mix หรือรู้จักกันในภาษาไทยว่า “ส่วนผสมทางการตลาด” เป็นทฤษฎีที่ทางการตลาดที่ได้รับความนิยมและเป็นพื้นฐานที่สุด โดยแบ่งการวิเคราะห์องค์ประกอบเป็น 4 ส่วน ได้แก่ Product (ผลิตภัณฑ์) Price (ราคา) Place (ช่องทางจัดจำหน่าย) Promotion (การส่งเสริมการขาย) เพื่อนำมาวางกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดคล้อง เหมาะสม และดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างยอดขายให้ได้มากที่สุด



1. Product สินค้าหรือผลิตภัณฑ์

หลัก ๆ แล้วการวิเคราะห์การตลาดในส่วนของ Product ก็คือการผลิตสินค้าหรือบริการที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจ ซึ่งถ้าจะให้ดีควรจะเป็นสินค้าที่แตกต่างจากคู่แข่ง หรือไม่อย่างนั้นก็จะต้องช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าได้ ร้านจะได้มีจุดขายและดึงดูกลูกค้าได้ง่ายขึ้น 

นอกจากนี้ในการวิเคราะห์สินค้าของร้าน จะต้องคำนึงถึงวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์และวงจรชีวิตลูกค้าด้วย เช่น ดูว่าสินค้าที่ขายมีอายุสั้นหรือยาวและลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะอยู่กับเรานานแค่ไหน เป็นต้น

สำหรับเทคนิคในการทำการตลาดของตัวสินค้าแล้ว เรารวบรวมมาให้สั้น ๆ ดังนี้ :
 

  • สินค้าหรือบริการต้องถูกใจและเป็นที่พึงพอใจของลูกค้า
  • มีความแตกต่างเพื่อสร้างจุดขายให้กับร้าน
  • ช่วยแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้
  • ออกแบบมาเพื่อลูกค้าแต่ละกลุ่มโดยเฉพาะ
  • คุ้มค่าและสะดวกสบายต่อการใช้งาน
  • คุณภาพสินค้าดี มีการรับประกัน
  • แพ็คเกจจิ้งสวยงามทันสมัย
  • ผลิตจากเทคโนโลยีทันสมัยและปลอดภัยต่อการใช้งาน




2. Price ราคา

ถ้าจะพูดจริง ๆ ก็คือ การตั้งราคาสินค้าคือตัววัดความสำเร็จของร้าน เพราะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับรายได้ของร้านมากที่สุด ทุกร้านจึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์การตลาดสำหรับตั้งราคาให้ดี 

ถ้าตั้งราคาถูกเกินไป ร้านก็จะไม่มีกำไร ทำให้ไม่มีกำลังใจในการทำร้าน แต่ถ้าตั้งราคาสูงเกินไป ลูกค้าก็อาจจะไม่มีกำลังซื้อเพียงพอ ทำให้ขายสินค้าไม่ออกได้ ดังนั้นกลยุทธ์การตลาด 4P ของ Price จึงควรพิจารณาสิ่งนี้ควบคู่กันไปด้วย และเทคนิคที่ช่วยในเรื่องของการตั้งราคาก็มีหลายอย่างด้วยกัน เช่น
 

  • ตั้งราคาให้ถูกไว้ก่อน เราเรียกเทคนิคนี้ว่า Loss Leader Pricing เป็นการตั้งราคาให้ถูกเพื่อกันคู่แข่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในตลาด
  • ตั้งราคาสูงในช่วงแรก หรือ Skimming Pricing เป็นการตั้งราคาสูงในช่วงแรกที่กำลังตีตลาด จากนั้นก็ค่อยลดราคาสินค้าในภายหลัง
  • ตั้งราคาเจาะตลาด เทคนิคนี้คือ Penetration Pricing เป็นการตั้งราคาสินค้าราคาถูกเพื่อตีตลาด ส่วนใหญ่ใช้กันในตลาดที่มีคู่แข่งเยอะ
  • ตั้งราคาทางจิตวิทยา เรียกว่า Psychological Pricing ตั้งราคาให้ลูกค้ารู้สึกว่าราคาถูก โดยตั้งราคาสินค้าให้ลงท้ายด้วยเลข 9 หรือเลข 5




3. Place ช่องทางการจัดจำหน่าย

ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์จะวางขายที่ไหน วางขายผ่านหน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าเขามาเลือกและสัมผัสสินค้าจริงได้ก่อนตัดสินใจซื้อ ฝากขายผ่านหน้าร้านตัวแทนเพื่อกระจายช่องทางขายสินค้าให้กว้างขึ้น ซึ่งการฝากขายอาจจะทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้นกว่าวางขายผ่านหน้าร้านของตัวเอง เพราะต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่เพิ่ม หรือขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่าง Facebook Website IG ฯลฯ ในกรณีนี้จะทำให้ขายสินค้าในราคาที่ถูกลงได้ เพราะไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่หน้าร้าน และผู้บริโภคยังเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของร้านได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับส่งสินค้าไปยังผู้บริโภคผ่านบริษัทที่ให้บริการด้านขนส่งที่ได้มาตราฐาน ได้แก่ Kerry Express ไปรษณีย์ไทย Flash Express และ Ninjavan เป็นต้น




4. Promotion การส่งเสริมการขาย

การส่งเสริมการขายหรือ Promotion เป็นการโปรโมทสินค้าผ่านการประชาสัมพันธ์ การจัดนิทรรศการ การสาธิตสินค้า ฯลฯ  โดยกลยุทธ์ที่ใช้ในการส่งเสริมการขายที่เป็นที่นิยมและได้ผลก็คือ
 

  • การจัดโปรโมชั่นหรือสร้างข้อเสนอพิเศษ
  • การอ้างอิงหรือรับรองจากอินฟลูเอนเซอร์
  • การทำโฆษณาหรือยิงแอด
  • การให้ทดลองใช้สินค้าฟรี
  • การทำแคมเปญแข่งขันชิงรางวัล
  • การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือ Partnership

นอกจากนี้การทำการส่งเสริมการขายจะต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ มีการนำเสนอไอเดียใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้น การเข้าหาลูกค้าและทำให้ลูกค้าเข้าหา รวมไปถึงการทำโปรโมชั่นที่เหมาะสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มด้วย



4P เป็นการวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้ไม่ยาก เพราะองค์ประกอบหลักทั้ง 4 ส่วน สามารถเริ่มได้ภายใต้ธุรกิจของผู้ประกอบการเอง เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการทำธุรกิจและทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีแบบแผนอย่างชาญฉลาดจนแซงหน้าคู่แข่ง

ไม่เพียงเท่านี้การสร้างธุรกิจให้เติบโตออย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ หากร้านค้ามองเห็นปัญหาในการทำธุรกิจได้ตั้งแต่แรกเริ่ม นั่นก็คือปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังจากธุรกิจสามารถสร้างยอดขายได้ แต่กลับไม่สามารถบริการร้านค้าได้อย่างเป็นระบบ จนทำให้เกิดปัญหาออเดอร์สูญหาย ตัดสต๊อกสินค้าไม่ตรง พนักงานแพ็คสินค้าผิด ค้นหาข้อมูลลูกค้าไม่พบ หากปัญหาเหล่านี้ไม่ได้รับการแก้ไขก็จะกลายเป็นกับดักที่จะฉุดธุรกิจของคุณให้ร่วงได้


แนะนำ 4 ปัจจัยที่จะกำหนดว่าคุณจะขายสินค้าได้หรือไม่!

ณ ปัจจุบันการขายของออนไลน์นั้น ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ลองสังเกตจากการเกิดร้านค้าออนไลน์ใหม่ ๆ ขึ้นมากมาย อย่างไรก็ดี เชื่อว่าทุกท่านอาจมีความกังวล กลัวว่าลงทุนไปแล้วจะไม่สำเร็จลุล่วงอย่างที่หวังไว้ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกๆท่านจำไว้ก่อนจะเลือกของมาขายก็คือ “ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในการตลาดบนโลกออนไลน์และต้องใช้เครื่องมือต่าง ๆ ให้เป็น”
16/ม.ค./2023 16:46 น.

6 เทคนิคการปิดการขาย สำหรับคนขายของออนไลน์เพื่อเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น

การปิดการขายสำคัญมากสำหรับคนขายของออนไลน์ นอกจากจะขายสินค้าได้มากขึ้นแล้ว อาจจะมัดใจลูกค้าให้ซื้อซ้ำได้อีกด้วย โดยระบบหลังบ้าน Order Plus
31/ม.ค./2023 09:52 น.

10 เทรนด์ การยิงแอด Facebook ในปี 2023 โดย ระบบหลังบ้าน Order Plus

การคาดการณ์การยิงแอด Facebook ในปี 2023 เพื่อเป็นแนวทางในการวิเคราะห์แนวโน้มในการขายสินค้าและทำการตลาดผ่านทาง Facebook ต่อไป
07/ก.พ./2023 10:20 น.
ระบบจัดการออเดอร์ OrderPlus ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ เพื่อเสริมสร้างการขาย
ค่าขนส่งที่ถูกลง และเพิ่มผลกำไรที่มากขึ้น
  • 181/261 moo 3, Changpuek,
    Mueng, Chiang Mai, Thailand 50300
  • [email protected]
  • 02-114-7287
line-icon